1. สถานที่จัดงาน
ควรจะเป็นที่ๆมีความปลอดโปร่ง แขกที่เข้าร่วมงานสามารถเข้าออกได้สะดวก ห้องน้ำสะอาดและไม่ไกลจากบริเวณจัดงานมากนัก
มีที่จอดรถและพนักงานรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา
แต่ความเห็นที่แต่งต่างกันออกไปในการเลือกสถานที่ ก็อาจจะด้วยเหตุปัจจัยหลายประการ
อย่างไรก็ตาม บ่าวสาวก็ควรจะต้องคำนึงถึงความสะดวกของแขกที่จะเข้าร่วมงานเป็นอันดับแรกค่ะ
“โดยผู้เขียนบทความ แนะนำให้เลือกโรงแรมเป็นสถานที่อันดับแรกในการนำมาพิจารณา
ส่วนเป็นหอประชุมของสาธารณะของเทศบาลหรือโรงเรียนเป็นอันดับสอง
และบ้านของบ่าวสาว ควรตัวเลือกเป็นลำดับสุดท้าย”
คงผู้อ่านจำนวนไม่น้อยที่คิดว่าการจัดงานที่บ้านของตนจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดงาน
แต่กลับมีต้นทุนอีกมากมายที่เราต้องซ่อมแซมปรับปรุงอาคารสถาณที่
และค่าอุปกรณ์การจัดงานที่ต้องนำเข้าหลายประการ
อธิ เวที หลอดไฟส่องสว่าง ไฟเอฟเฟ็คบนเวที จอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ ลำโพง เป็นต้น
ผู้จัดงานยังต้องขออนุญาตใช้เสียงหรือถนนสันจรบริเวณบ้าน การจัดเตรียมสถานที่จอดรถ ไฟส่องสว่าง
การเช่าเต็นท์เพื่อกันแดด-ฝน พนักงานดูแลการเข้าออกของรถ เป็นต้น เพื่อให้การจัดงานเป็นไปอย่างราบลื่น
ประเพณีแต่งงานของแต่ละภูมิภาคล้วนมีความแตกต่างกันออกไป
โดยในภาคอีสาน ผู้คนจะไม่นิยมจัดงานแต่งในช่วงเวลาเข้าพรรษา(วันเข้าพรรษา เป็นหนึ่งในวันสำคัญของศาสนาพุทธ ที่ต่อเนื่องมาจากวันอาสาฬหบูชา
โดยเป็นวันที่พระสงฆ์เถรวาทจะอธิษฐานว่าจะพักประจำอยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งตลอดระยะเวลาฤดูฝน
ที่มีกำหนดระยะเวลา 3 เดือน ตามที่พระธรรมวินัยบัญญัติไว้ โดยไม่ไปค้างแรมที่อื่น)ยังมีอีกในเรื่องความเชื่อถือในฤกษ์งามยามดี ซึ่งเป็นวันที่ควรหรือไม่ควรจัดงานแต่ง
จะส่งผลให้การดำเนินชีวิตคู่เป็นไปอย่างสุขสมหวัง รักกันไปจนถือไม้เท้ายอดทองตะบองยอดเพชรการที่ถือเอาฤกษ์ดีในการจัดงาน จึงทำให้ในหนึ่งปีจะเหลือวันดีเพียงไม่กี่วัน และปัญหาที่เกิดตามมา
เช่น คิวจองห้องจัดเลี้ยงของโรงแรมเต็มในวันที่เราต้องการ และปัญหานี้ยังเกิดกับคิวของช่างถ่ายภาพฝีมือดี
ร้านอาหารที่รับทำโต๊ะจีน พิธีกร ช่างแต่งหน้า ทีมออแกไนซ์ ทีมรันคิว เป็นต้น
แขกผู้ร่วมงานหลายท่านก็อาจจะต้องเลือกร่วมงานใดงานหนึ่งได้เพียงแค่งานเดียวในวันนั้นเราจึงควรวางแผนไว้การแต่งงานก่อนล่วงหน้า เพื่อให้ได้งานแต่งที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
3. เลือกช่วงเวลาใด
โดยทั่วไปจะมีการจัดพิธีมงคลสมรสตามประเพณีในตอนเช้า และจัดงานฉลองในช่วงเวลาเย็น
หากต้องการควบคุมเวลาเพราะต้องคำนึงถึงแขกผู้เข้าร่วมงานส่วนใหญ่ว่ามีช่วงอายุเท่าใด
ก็อาจจะเป็นการแต่งเช้าเลี้ยงฉลองเที่ยง หรือแต่งเที่ยงเลี้ยงฉลองเย็น
ต้องเดินทางไกลมาร่วมงานหรือไม่ จะต้องดูแลอย่างไร
ซึ่งโดยปรกติแล้ว งานเลี้ยงอาฟเตอร์ปาร์ตี้ (After Party) จะต้องมีข้อตกลงกับโรงแรมว่าจะสามารถใช้สถานที่ในการสังสรรค์ได้ถึงเวลาเท่าใด
สุดท้ายนี้ ขอให้ทุกท่านประสบความสำเร็จ และได้รับคำชื่นชม ในการบริหารจัดการงานแต่งงานอย่างที่น่าประทับใจค่ะ
